(ระบุช่องติดต่อ เช่น XXX Contact Center 02-XXX-XXXX อีเมล:)…. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ( Data Protection Officer: DPO) ชื่อ: ……. (ระบุชื่อ DPO ของหน่วยงานท่าน)…………………… สถานที่ติดต่อ: ……(ระบุที่อยู่สำหรับติดต่อ DPO ของท่าน เช่น เลขที่ xxx อาคารx ชั้น x ถนนx แขวงx เขตx กรุงเทพมหานคร) ช่องทางการติดต่อ: …. (ระบุช่องติดต่อ เช่น XXX Privacy Center 02-XXX-XXXX อีเมล:)…..
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice) ———————————————————————————- บริษัท เค แอนด์ โอ ซิสเต็มส์ แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า "เค แอนด์ โอ" หรือ " เรา ") กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณ….. อาคาร/สิ่งอำนวยความสะดวก/สถานที่….
ตัวอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้นำข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนา(ชื่อผลงานของท่าน)ดังนี้ 1. วิเคราะห์หาค่าความพึงพอใจของผู้ใช้(ชื่อผลงานของท่าน) โดยหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถามทั้งฉบับ 2. ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม นำมาแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ 3. ข้อมูลที่เป็นแบบมาตราส่วน คำนวณค่าเฉลี่ย (χบาร์) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S. D) แต่ละข้อนำมาเทียบกับเกณฑ์ แปลความหมาย ดังนี้ ค่าเฉลี่ย 4. 51 – 5. 00 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจอย่างยิ่ง ค่าเฉลี่ย 3. 51 – 4. 50 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจมาก ค่าเฉลี่ย 2. 51 – 3. 50 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1. 51 – 2. 50 หมายถึง มีระดับความไม่พึงพอใจ ค่าเฉลี่ย 0. 00 – 1. 50 หมายถึง มีระดับความไม่พึงพอใจอย่างยิ่ง 4. ข้อมูลที่เป็นคำถามปลายเปิดและการสัมภาษณ์ เก็บรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะ 5. เพื่อตรวจสอบความชัดเจน เข้าใจง่าย และความสอดคล้องของเนื้อหาของข้อคำถาม โดยวิเคราะห์หาจากดัชนีความสอดคล้องของข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (Index of Item Objective Concurrence: IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ดาวน์โหลดเอกสาร ตัวอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูล ได้ที่นี่ รบกวนคลิกให้คะแนนโพสต์นี้ด้วยครับ [รวม: 0 เฉลี่ย: 0]
โครงสร้างของแบบสอบถามประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 1.
ศ. 2562 ของท่าน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.
แบบสอบถามนั้นต้องส่งไปให้ผู้ตอบพร้อมจดหมายนำ ซึ่งในจดหมายนำต้องกล่าวโดยละเอียดถึงจุดมุ่งหมายของการสอบถาม ความปลอดภัยของผู้ตอบ ความสำคัญของผู้ตอบและการตอบโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ 2. เลือกช่วงเวลาให้เหมาะสมสำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 3. ให้ระยะเวลาแก่ผู้ตอบพอสมควร 4. คำนึงถึงความประณีต สวยงามของตัวแบบสอบถาม เพื่อชักจูงให้ผู้ตอบสนใจอ่านแล้วตอบ 5. การทดสอบก่อนนำไปใช้จริง ต้องทำกับกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะเหมือนกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย แต่ไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน 6. การส่งจดหมายตามในกรณีที่ผู้ตอบไม่ส่งแบบสอบถามคืน ควรเว้นระยะให้พอเหมาะและอาจส่งแบบสอบถามชุดใหม่แนบไปด้วย 7. ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อการส่งคืน ความยาวของแบบสอบถาม คุณภาพของข้อคำถาม ความสะดวกในการส่งคืน 8. ต้องมีแผนสำหรับแบบสอบถามที่ส่งคืนมาอย่างไม่สมบูรณ์ เป็นต้นว่า ตอบไม่ครบทุกข้อ ตอบคำว่าใช้ทั้งหมด หรือไม่ใช้ทั้งหมด คำตอบที่ตอบเป็นกลาง ๆ ไม่รู้ เฉย ๆ เหล่านี้จะนับรวมในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยหรือไม่ 9. แบบสอบถามที่ส่งไปควรพยายามให้ได้กลับคืนอย่างน้อยที่สุดประมาณ 50% อาจจะต้องส่งจดหมายพร้อมทั้งแบบสอบถามไปให้ถึง 3 ครั้ง 10. ข้อควรระวังในกรณีที่แบบสอบถามนี้ไม่ได้ให้ผู้ตอบกรอกชื่อ แต่ผู้วิจัยทำเครื่องหมายไว้เพื่อสะดวกเวลาติดตาม ถ้าเครื่องหมายนั้นเป็นที่สังเกตได้ชัดเจนอาจทำให้ผู้ตอบระแวงว่าจะมีผลร้ายเกิดขึ้นแก่ตัวเขา ผู้วิจัยอาจไม่ได้รับความร่วมมือในการตอบได้ ข้อดีและข้อเสีย ข้อดี: 1.
ชุดคําถามเกี่ยวกับความคิดเห็น หรือพฤติกรรมของผู้ตอบในเรื่องนั้น ๆ เป็นชุด คําถามที่ให้ผู้ตอบบอกถึงพฤติกรรม หรือปรากฏการณ์ หรือให้แสดงความคิดเห็นในด้านต่างๆ ซึ่ง บางครั้งจะไม่สามารถทราบได้ว่าคําตอบนั้นเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด เพราะเป็นเพียงความ คิดเห็นของผู้ตอบในขณะนั้น คําถามในส่วนนี้อาจเป็นได้ทั้งคําถามปลายปิดและปลายเปิด ขั้นตอนการสร้างแบบสอบถาม ในการสร้างแบบสอบถาม จะต้องมีความละเอียดรอบคอบในการสร้างคําถาม เพื่อให้ แบบสอบถามนั้นมีความสมบูรณ์และนําไปใช้ได้ตรงตามเป้าหมายของการวิจัย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1. ศึกษาและรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่จะทําการวิจัย โดยอาจศึกษา จากแหล่งความรู้ทั่วไป เช่น หนังสือ เอกสาร บทความทางวิชาการ ระเบียบ คําสั่ง ผลงานวิจัย วิทยานิพนธ์ วารสาร สถิติ หรือข้อเขียน 2. พิจารณาแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องที่จะวิจัย โดยให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ สมมติฐาน ตลอดจนตัวแปรต่างๆ ในการวิจัยตามที่ได้กําหนดไว้ก่อนแล้ว โดยในการเริ่มต้นสร้าง แบบสอบถาม ผู้วิจัยควรจะได้พิจารณาจัดหัวข้อย่อย ซึ่งครอบคลุมแง่มุมต่างๆ ของเรื่องที่จะทํา การวิจัยเท่าที่จะคิดได้ และเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีความสัมพันธ์กับเรื่องที่จะวิจัย 3.
พิจารณาการใช้ลักษณะหรือรูปแบบคําถามชนิดใดกับรายการคําถามเหล่านั้น
อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวม (Debt ratio) = หนี้สินรวมหารด้วยสินทรัพย์คูณด้วย 100 (%) อัตราส่วนนี้จะบอกให้เราทราบว่ากิจการมีหนี้สินเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์ทั้งหมด ยิ่งสูงยิ่งมีหนี้มากหมายถึงเรามีการซื้อสินทรัพย์ด้วยหนี้มากกว่าเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น โดยทั่วไปไม่ควรเกินร้อยละ 60 2.