อาจารย์ พญ.
งูสวัด (Herpes zoster) โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ 9 มีนาคม 2562 Tweet สารบัญ บทนำ โรคงูสวัดคือโรคอะไร? เกิดได้อย่างไร? ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดงูสวัด? โรคงูสวัดมีอาการอย่างไร? โรคงูสวัดติดต่อได้ไหม? แพทย์วินิจฉัยโรคงูสวัดได้อย่างไร? รักษาโรคงูสวัดได้อย่างไร? โรคงูสวัดรุนแรงไหม? ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร? ป้องกันโรคงูสวัดอย่างไร? มีวัคซีนไหม?
2-3. 4 รายใน1, 000 แสนคนในแต่ละปี และพบในผู้อายุมากกว่า 65ปี 3. 9-11.
หากลูกยังเป็นทารก ซึ่งจะไม่ได้รับวัคซีนอีสุกอีใส เมื่อมาสัมผัสกับผื่นงูสวัด ก็ย่อมมีโอกาสที่จะติดเชื้อและกลายเป็นโรคอีสุกอีใสได้ 2. แนะนำควรปิดผื่นงูสวัดด้วยผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กไปสัมผัสโดนผื่นงูสวัด และควรเปลี่ยผ้าก๊อซทุกวัน รวมถึงล่างมือทุกครั้งหากมีการสัมผัสโดนผื่นค่ะ สำหรับเต้านมอีกข้างสามารถที่จะให้ลูกดูดได้ค่ะ
ตอบ ไม่จริง โรคงูสวัดจะก่อให้เกิดผื่นขึ้นเพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย แต่ในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ โรคอาจลุกลามมากกว่าปกติ และเสี่ยงต่อชีวิต โดยเฉพาะหากมีอาการติดเชื้อซ้ำซ้อน >> จริงหรือไม่? งูสวัดขึ้นรอบตัวแล้วจะเสียชีวิต? เคยเป็นงูสวัดแล้ว จะไม่เป็นซ้ำอีก? ตอบ ไม่จริง แม้ว่าโดยส่วนใหญ่ โรคงูสวัดจะไม่เป็นซ้ำอีก แต่หากร่างกายอยู่ในสภาวะอ่อนแอ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ ก็มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำได้ เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสแล้ว สามารถป้องกันโรคงูสวัดได้ ไม่ต้องฉีดวัคซีนซ้ำ? ตอบ ไม่จริง เราสามารถฉีดวัคซีนโรคงูสวัดเพิ่มได้ เพราะถึงแม้ว่าเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส กับโรคงูสวัดจะเป็นชนิดเดียวกัน แต่สำหรับวัคซีนโรคงูสวัด จะมีความเข้มข้นมากกว่าวัคซีนโรคอีสุกอีใสถึง 14 เท่า ดังนั้นถึงแม้ว่าวัคซีนทั้งสองชนิดจะสามารถปกป้องร่างกายจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน แต่ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ >> รู้ยัง? "งูสวัด" มีวัคซีนป้องกันด้วยนะ ดังนั้น หากสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคงูสวัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากใครที่ยังไม่เคยเป็นโรคงูสวัด หรือไม่อยากเป็นซ้ำเพราะมีความเสี่ยง สามารถสอบถามแพทย์เพื่อขอรับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดได้
3% และลดอุบัติการณ์การเกิดอาการปวดปลายประสาทจากงูสวัดได้ถึง 66.
งูสวัดในคนท้อง: สาเหตุ ความเสี่ยง อาการป่วย รวมทั้งวิธีดูแลในเบื้องต้น เผยแพร่ครั้งแรก 7 เม. ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที การตั้งครรภ์ ถือเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะต้องดูแลตนเองให้ร่างกายแข็งแรง เนื่องจากเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ รวมถึงต้องบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้ลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย ไม่มีโรคภัย หรืออาการแทรกซ้อนด้วย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่หญิงตั้งครรภ์จะเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายต่างๆ ก็ยังมีอยู่ รวมไปถึงโรคงูสวัดด้วย แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี!
งูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับโรคอีสุกอีใส แต่อาการจะต่างออกไปค่ะ อีสุกอีใสจะมีอาการคัน แต่งูสวัดจะมีอาการปวดมากกว่า และจะปวดบริเวณใต้ผื่น ส่วนอาการคันในงูสวัดจะมีในช่วงแผลตกสะเก็ด หากแกะเกาแผลอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น หรือติดเชื้อได้ โรคงูสวัด มีอาการ 4 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะที่หนึ่ง ปวดปลายประสาท 3 วันแรก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง แต่ไม่มีผื่น มีความรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต 2. ระยะที่สอง เป็นไข้ มีผื่นแดง ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ขึ้นเป็นพักๆ รู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง มีผื่นแดงขึ้น รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัว 3. ระยะที่สาม มีตุ่มน้ำ ปลายประสาทอักเสบ ผื่นแดงจะเริ่มกลายเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่มหรือแนวยาวตามปลายเส้นประสาทคล้ายงูเลื้อย มีอาการปวดบริเวณผื่นมากเนื่องจากปลายประสาทอักเสบ 4.