5 โรคภูมิแพ้ยอดฮิตในเด็ก ในปัจจุบันพบว่ามีเด็กไทยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, หืด, ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้, ลมพิษ, แพ้ยาและแพ้อาหาร ซึ่งโรคภูมิแพ้เหล่านี้เป็นปัญหากวนใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อย วันนี้หมอมีความรู้ดีๆเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ยอดฮิตในเด็กมาฝากกันครับ 1.
ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ หากมีอาการหอบเหนื่อยเวลาออกกำลังกาย ควรสูดยา ป้องกันอาการหอบก่อน 10. ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะบางชนิดถ้าใช้ต่อเนื่องนานอาจมีอันตรายได้
การเรียนรู้ไม่สะดุด เมื่อหยุดภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้คืออะไร โรคภูมิแพ้ เกิดจากการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งระคายเคือง ทำให้แสดงอาการต่างๆ ตามชนิดของภูมิแพ้โดยในปัจจุบันสิ่งแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก มีควันพิษและของเสียเกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังพบว่าภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรังอันดับ 3 ที่ทำให้เด็กวัยเรียนต้องขาดเรียนอีกด้วย 1. โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ หรือภูมิแพ้อากาศ สาเหตุของโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยด้วยกัน 1. พันธุกรรม สาเหตุหลักในการเกิดโรคภูมิแพ้ หากพ่อหรือแม่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 30-50% แต่หากเป็นโรคภูมิแพ้กันทั้งพ่อและแม่ ลูกที่เกิดมาก็จะมีโอกาสเป็นมากขึ้นประมาณ 50-70% 2.
รู้ทันโรคภูมิแพ้ในเด็ก ภาพจากเว็บไซต์ โรคยอดฮิตในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น "โรคภูมิแพ้" โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ในเด็ก มีสาเหตุเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. พันธุกรรม เมื่อมีคุณพ่อคุณแม่หรือพี่น้องที่เป็นภูมิแพ้โอกาสที่จะมีลูกที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้น และ 2. สิ่งแวดล้อมที่มากระตุ้น เช่น มลภาวะเป็นพิษ หรืออาหารต่าง ๆ มากระตุ้นเด็กที่มีความเสี่ยงเป็นภูมิแพ้ ทำให้มีอาการแสดงออกมาได้ วิธี สังเกตลูกน้อยว่าเป็นภูมิแพ้ 1. 1 ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง จะเป็นผื่นขึ้นตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ อาจจะมีผิวแห้ง มีผื่นแดงขึ้นบริเวณตามใบหน้า หรือตามข้อพับ และเป็น ๆ หาย ๆ รวมถึงมีอาการที่คันมากทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัว 1. 2 แพ้อาหาร – มีอาการทางผิวหนังคือ ผื่นลมพิษ, ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง – อาการทางเดินอาหาร ถ่ายเป็นมูกเลือด, ถ่ายเหลวเรื้อรัง – อาการระบบทางเดินหายใจ หายใจครืดคราด, หอบหืด 1. 3 ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ – ภูมิแพ้จมูกหรือบางคนเรียกว่า ภูมิแพ้อากาศ มีอาการคัดจมูก คันจมูก คันตา น้ำมูกไหล จามบ่อย ๆ มักเป็นเรื้อรังเป็นเดือน หรือมีอาการตามช่วงเวลา เช่น ตอนเช้าหรือก่อนนอน – หอบหืด มีอาการไอกลางคืน หายใจมีเสียงวี๊ด โดยเฉพาะเวลาอากาศเปลี่ยน 2.