ใครเป็นอาการแสบร้อนในลำคอมั่ง ผมจะเป็นทุกวันเวลาตอนเย็นๆบางครั้งแสบร้อนจนปวดหัวเลย ลองไม่กินเผ็ดตอนมื้อเช้าและกลางวัน มันก็ยังเป็นอีก ใครเป็นช่วยแชร์เล่ากันฟังบ้างครับ แสดงความคิดเห็น
เมื่อเราหายใจเอาฝุ่นเข้าไปในปริมาณมาก ๆ อาการแรกที่สังเกตเห็นได้ชัดคือความรู้สึกระคายคอ แสบคอ แสบจมูก ไอแห้ง ๆ หรือบางคนก็จามติด ๆ กัน ซึ่งก็เป็นกลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายที่พยายามจะขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการแสบคอ แสบจมูก คันคอ ไอแห้ง ๆ ล้วนเป็นความน่ารำคาญที่ใครก็ไม่อยากให้อยู่กับตัวเองนาน ๆ 1. ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในช่วงเวลาที่คันคอ แสบคอจากฝุ่น ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ (อย่างน้อย 6 แก้วต่อวัน) เพื่อให้น้ำเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุลำคอ ลดอาการระคายคอไปได้บ้าง 2. รับประทานอาหารอ่อน ๆ ถ้าแสบคอมาก กินอะไรไม่ถนัด แนะนำให้กินอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ที่ไม่ร้อนจนเกินไป เพราะอาหารอ่อน ๆ จะช่วยให้กลืนง่าย คล่องคอมากขึ้นนั่นเอง 3. กลั้วคอบ่อย ๆ หลังจากรับประทานอาหารเข้าไปแล้ว หรือเมื่อไรก็ตามที่รู้สึกระคายคอ ให้กลั้วคอด้วยน้ำอุ่น ๆ ผสมเกลือเล็กน้อย หรือน้ำเปล่าธรรมดาก็ได้ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคอ ทำให้คอชุ่มชื้น แถมยังบรรเทาอาการเจ็บคอหรืออาการระคายคอได้ด้วย 4. ใส่หน้ากากอนมัยเวาออกไปข้างนอกบ้าน ไม่ว่าจะออกไปที่ไหนเเม้กระทั่งอยู่ในรถยนต์ เราควรใส่หน้ากากป้องกันไว้ก่อน เพราะเจ้าฝุ่นมีอนุภาคที่เล็กมากลอยตามอากาศ 5.
อ่าน 1, 302 ผลกระทบจากฝุ่นพิษที่หลายคนรู้สึกได้ชัดๆ เลยคงจะเป็นอาการแสบคอ คันคอ ไอแห้งๆ ซึ่งก็ทำให้รู้สึกรำคาญอาการเหล่านี้อยู่พอตัว แล้วระคายคอแบบนี้แก้ยังไงดีล่ะ เมื่อเราหายใจเอาฝุ่นเข้าไปในปริมาณมากๆ อาการแรกที่สังเกตเห็นได้ชัดคือความรู้สึกระคายคอ แสบคอ แสบจมูก ไอแห้งๆ หรือบางคนก็จามติดๆ กัน ซึ่งก็เป็นกลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายที่พยายามจะขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการแสบคอ แสบจมูก คันคอ ไอแห้งๆ ล้วนเป็นความน่ารำคาญที่ใครก็ไม่อยากให้อยู่กับตัวเองนานๆ งั้นเรามาแก้ระคายคอจากฝุ่น PM2. 5 กันดีกว่า 1. ดื่มน้ำ ให้มากๆ ในช่วงเวลาที่คันคอ แสบคอจากฝุ่น ควร ดื่มน้ำ ให้มากกว่าปกติ (อย่างน้อย 6 แก้วต่อวัน) เพื่อให้น้ำเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุลำคอ ลดอาการระคายคอไปได้บ้าง 2. รับประทานอาหารอ่อนๆ ถ้าแสบคอมาก กินอะไรไม่ถนัด แนะนำให้กินอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ที่ไม่ร้อนจนเกินไป เพราะอาหารอ่อนๆ จะช่วยให้กลืนง่าย คล่องคอมากขึ้นนั่นเอง 3. กลั้วคอบ่อยๆ หลังจากรับประทานอาหารเข้าไปแล้ว หรือเมื่อไรก็ตามที่รู้สึกระคายคอ ให้กลั้วคอด้วยน้ำอุ่นๆ ผสมเกลือเล็กน้อย หรือน้ำเปล่าธรรมดาก็ได้ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคอ ทำให้คอชุ่มชื้น แถมยังบรรเทาอาการเจ็บคอหรืออาการระคายคอได้ด้วย 4.
คุณ Manny Puya อาการแสบร้อนในคอ อาจเกิดได้จาก 1. กรดไหลย้อน (GERD) ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหูรุดของหลอดอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ทำให้มีกรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร บางคนถึงคอหอยได้ จึงรู้สึกปวดแสบเล็กน้อย บางคนเจ็บหน้าอก มักเกิดหลังทานข้าวอิ่มๆและนอน นั่ง นอนราบ การรักษาต้องทานยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ ไม่เครียด ไม่ทานอาหารเร็วๆ หรือที่ย่อยยาก เคี้ยวให้ละเอียด อาหารรสไม่จัด ไม่ทานจนอิ่มแน่นเกินไป ทานอาหารให้เป็นเวลา 2. โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล บางคนมีอาการปวดตรงใต้ลิ้นปี จนไปถึงคอได้ เกิดจากมีกรดมากเกินไป มีแผลในกระเพาะอาหาร เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ H. Pyroli การวินิจฉัยให้แน่ชัดต้องส่องกล้องเข้าไปดูในกระเพาะอาหาร และนำเชื้อขึ้นมาทดสอบกับแผ่น test ว่ามีเชื้อ H pyroli อยู่หรือไม่ ถ้ามีผล บวก ต้องทานยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ เหมือน GERD แต่ต้องเพิ่มยาต้านจุลชีพแบคทีเรีย เพื่อทำลายเชื้อตัวนี้ด้วย 3. อาการแสบร้อนในคอ อาจมีสาเหตุจาก โรคหัวใจขาดเลือด ก็ได้ ซึ่งพบได้ไม่บ่อย ผู้ป่วยอาจไม่ได้มาด้วยเรื่องอาการเจ็บหน้าอก เหมือนโรคหัวใจขาดเลือดทั่วไป การรักษาต้องตรวจ Enzyme เฉพาะหัวใจ หรือ ฉีดสีหาเส้นเลือดที่อุดตันของหัวใจ คำแนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาให้ถูกต้องครับ
ไม่กินของมัน อาหารประเภททอด ผัด อาหารที่มีไขมันสูง หรือผลิตภัณฑ์จากนมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายคอเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งยังไม่ดีต่อสุขภาพของเราด้วยเนอะ ดังนั้นหลีกเลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า 6. อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทดี หากเป็นไปได้ให้อาศัยอยู่ในอาคาร บ้าน ตึก ที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองและมลพิษ