พญ. ดารินทร์ ซอโสตถิกุล
เลือดกำเดาไหล (Epistaxis) คือภาวะเลือดออกทางจมูก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ภาวะเลือดออกทางจมูกด้านหน้า และภาวะเลือดออกทางจมูกด้านหลังโพรงจมูกซึ่งส่วนใหญ่มัมีสาเหตุที่อันตรายกว่าภาวะเลือดออกทางจมูกด้านหน้า ดังนั้นเมื่อเลือดกำเดาไหล อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรค เช่น 1. เนื้องอก สาเหตุ: มะเร็ง หรือเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่มีเส้นเลือดมาเลี้ยง เกิดขึ้นในจมูก ไซนัส หรือหลังโพรงจมูก อาการ: เลือดออกเป็นบางครั้ง หรือเลือดออกจมูกปริมาณมากควรส่องกล้องตรวจโพรงจมูก หรือเอกซเรย์เพื่อตรวจวินิจฉัย 2. การระคายเคือง หรือบาดเจ็บในจมูก สาเหตุ: แคะจมูกบ่อย ได้รับแรงกระแทกที่จมูก สั่งน้ำมูกแรง ๆ อากาศแห้งความกดอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ขึ้นเครื่องบิน อาการ: เลือดมักออกไม่มาก และเป็นระยะเวลาสั้น ๆ อาจมีเลือดออกช้ำในช่วงที่ใกล้หาย 3. การอักเสบในโพรงจมูก สาเหตุ: จากการติดเชื้อไวรัส ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ใช้เครื่องอัดอากาศขณะหลับ อาการ: มีเลือดออกปนมากับน้ำมูก 4. ความผิดปกติทางกายวิภาค สาเหตุ: ผนังกั้นช่องจมูกคด หรือมีกระดูกงอกผิดที่ รวมถึงมีรูทะลุทำให้เกิดความไม่สมดุลของอากาศ อาการ: เลือดมักไหลในจมูกข้างเดิม และเป็นซ้ำในจุดที่ผนังกั้นช่องจมูกคดหรือมีกระดูกงอก ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่มา: รศ.
อีกไม่กี่วันก้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยวที่ทุกคนรอคอยกับ วันสงกรานต์ 2565 ในวันที่ 13, 14, 15 เมษายนนี้ แต่ว่าหลาย ๆ คนนั้นก็ยังไม่รุ้ถึงประวัติแลัความเป็นมาของวันนี้สักเท่าไหร่นัก วันนี้ The Thaiger จพมาพาทุกท่านเล่าย้อน ตำนานวันสงกรานต์ ว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นของวันสำคัญ ที่เป็นถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทยมาจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงที่มาของ นางสงกรานต์กิริณีเทวี และนางสงกรานต์คนอื่น ๆ อีกทั้ง 7 องค์ว่าทำไมถึงต้องมีด้วยนะ ย้อนรอยประวัติ ตํานานวันสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทั้ง 7 และนาง กิริณีเทวี มีที่มาอย่างไร?